ซึงนับเป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านล้านนาที่มีลักษณะเรียบง่าย
ชาวบ้านสามารถทำขึ้นไว้เล่นเองได้และในปัจจุบันก็ยังเป็นเครื่องดนตรีที่มีขายอย่างแพร่หลายอีกด้วย
มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับพิณ หรือซุง ของภาคอีสาน
ในบางท้องที่เรียกเครื่องดนตรีนี้ว่าพิณ
รูปลักษณะของวึงนั้นหากเปรียบเทียบกับดนตรีของชาติอื่นๆ
ก็จะพบว่าคล้ายกระจับปี่ของจีน หรือคล้ายกับกีต้าร์ หรือแมนโดลีน
อันเป็นเครื่องดนตรีสากลด้วย ซึงมีส่วนประกอบที่สำคัญดังนี้
1. โรงเสียง
(อ่าน โฮงเสียง ) คือต้นกำเนิดเสียงซึ่งมีลักษณะเป็นไม้กลวงข้างใน
นิยมใช้ไม้เนื้ออ่อนหรือไม้สักทั้งท่อนท าเพราะอาจขูดเนื้อไม้ท
าเป็นกล่องเสียงได้ง่าย โดยคว้านข้างในให้กลวงเป็นรูปวงรีเหลือขอบโดยรอบกับพื้นกล่องเสียงซึ่งไม่หนามากนัก
ความหนาของกล่องเสียงขึ้นอยู่กับชนิดของไม้ที่จะใช้ทำและขนาดของซึงที่ต้องการ
เท่าที่พบโดยทั้วไปประมาณ 2-3 นิ้ว
2. ตาดซึง
คือแผ่นไม้บางปิดหน้าโรงเสียง
เจาะรูกว้างพอประมาณบริเวณใกล้ศูนย์กลางค่อนไปทางคอเสียงเล็กน้อยเพื่อเป็นทางออกของเสียง
3. คอซึง
มีลักษณะเป้นคันยาวยื่นต่อจากตัวกล่องเสียงอาจเป็นไม่ท่อนเดียวกันกับที่ใช้ท
ากล่องเสียงหรือท าแยกส่วนเป็นคนละชิ้นก็ได้ ถ้าไม่ได้ใช้ชิ้นเดียวกันกับที่ทำตัวกล่องเสียงแล้ว ส่วนนี้จะนิยมทำด้วยไม้เนื้อแข็งเพื่อให้ทนทานและเสียงที่ดังออกมาไพเราะ
ตอนลายของคอจะมีลูกบิดเสียบไว้ บนคอ ซึงติดท่อนไม้เล็กๆ เรียกว่า ลุกซึง หรือ นม
เป็นระยะๆ เรียงตามความยาวของคอจนใกล้ถึงตัวกล่องเสียงจำนวนลุกซึงไม่แน่นอน
แต่มาตราฐานทั่วไปนิยมติด 9 อัน โดยขัดเว้นระยะตามขอบเขตของเสียงที่เกิดขึ้น
4. ค็อบซึง
คือหย่องที่เป็นไม้หมอนซึ่งเป็นไม่ท่อนเล้ก
อยุ่ระหว่างช่องระบายเสียงกับตรงเกือบล่างสุดขอบตัวกล่องเสียง
5. สายซึง
สายซึงเป็นเส้นทองเหลือง
ซึ่งแต่เดิมนั้นนิยมใช้สายห้ามล้อจักรยานมาท า ปัจจุบันอาจพบว่ามีการนำเอาสายกีต้าร์มาใช้แทน
ซึงมี 4 สาย ซึ่งแยกกันเป็น 2 คู่ เวลาดีดจะดีดทีละคู่
)ขึงจาก ค๊อบ(ก๊อบ)รองสายโดยขึงผ่านกลางกล่องเสียงไปยังลุกบิด
การดีดมักใช้เขาสัตร์หรือพลาสติกทำเป็นชิ้นบางขนาดไม่ใหญ่นักเป้นที่ดีด
โดยดีดตรงบริเวณที่มีสายขึงอยู่ใกล้รูที่เจาะไว้ มืออีกข้างหนึ่งจับคอซึงและใช้นิ้วกดสายลงไปให้แนบกับลุกซึงเพื่อให้เกิดเสียงตามที่ต้องการ
6. หลักซึง
คือลูกบิดที่ขันสายซึงให้ตังหรือหย่อยตามต้องการ
VDO แสดงการเล่นซึง
VDO แสดงการเล่นซึง
ประเภทของซึง
ซึง โดยทั่วไปแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
แบ่งตามขนาดและแบ่งตามการตั้งเสียง
1. แบ่งตามขนาดนิยมแบ่งเป็น
3 ขนาด คือ
a. ซึงใหญ่ ความกว้างของกล่องเสียงประมาร 12 นิ้ว หนาประมาร 3 นิ้ว ยาวประมาร 18นิ้ว
b. ซึงกลาง ความกว้างของกล่องเสียงประมาณ 10 นิ้ว หนาประมาณ 2.5 นิ้ว ยาวประมาณ15 นิ้ว
c. ซึงเล็ก ความกว้างของกล่องเสียงประมาณ 8 นิ้ว หนาประมาณ 2 นิ้ว ยาวประมาณ 12 นิ้ว
2. แบ่งตามการตั้งเสียง
เป็น 2 ลักษณะ
a. ซึงลุกสาม ตั้งเสียงโด-วอล โดยตั้งสายทุ้มเป็นเสียงโด
ตั้งสายเอกเป็นเสียงซอล ซึงลูกสามมักเป็นซึงใหญ่และซึงเล็ก
b. ซึงลูกสี่ ตั้งเสียง ซอล-โด โดยตั้งสายทุ้มเป็นเสียงซอล ตั้งสายเอกเป็นเสียงโด
ซึงลูกสี่มักจะเป็นวึงกลาง
บทบาทและลีลา
การบรรเลงผสมวงนั้น
ซึ่งแต่ละตัวย่อมมีบทบาทและมีลีลาในการบรรเลงที่ต่างกันไป ไม่ซ้ำกันดังนี้
วงสะล้อ-ซึง
- ซึงใหญ่ มีบทบาทคล้ายผุ้สุงอายุ เสียงทุ้มต่ำ ลีลาในการบรรเลงจึงมักสอดรับกับซึงตัวอื่นๆ เสียงส่วนใหญ่
หน้าที่ของซึงใหญ่จึงคล้ายกีต้ารืเบสของดนตรีสากล
- ซึงกลาง บทบาทคล้ายกับวัยกลางคน วางเสียงหนัก
ไปทางคุมจังหวะพร้อมกับสอดลูกเล่นล้อ และรับกับซึงใหญ่และซึงเล็กสลับกันไป
- ซึงเล้ก บทบาทคล้ายคนวัยคะนอง เสียงแหลมเล็กลูกเล่นแพรวพราว
ลีลาล้อและรับกับซึงใหญ่ ซึงกลาง สะล้อและขลุ่ย
ที่มา : http://lib.payap.ac.th/webin/ntic/web_lanna_instruments/articles/sung.pdf
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น