ปี่แน(ภาคเหนือ)
เป็นเครื่องเป่าประเภทหนึ่งบางครั้งถูกชาวบ้านเรียกว่า ปี่แน
พบว่ามีขายแม้กระทั่งในตลาดของเมืองตาลี มณฑลยูนนาน ประเทศจีน
และอาจจะได้รับอิทธิพลมาจากพม่า ซึ่งมีเครื่องดนตรีประเภทเดียวกันนี้อยู่ด้วย
ลิ้นของแนทำด้วยใบลานหรือใบตาล เป็นลิ้นคู่ประกบกันอยู่รอบๆ ท่อโลหะเล็กๆ
ท่อนี้เสียงเข้าไปในท่อไม้กลมยาวซึ่งค่อยๆ มีขนาดใหญ่ขึ้น
ท่อไม้นี้กลวงตลอดและรูภายในค่อยๆ โตขึ้นตามขนาดของไม้ด้วย
รูที่เจาะบนท่อไม้เป็นระยะสำหรับปิดเปิดด้วยนิ้วมือทั้งสองข้าง ซึ่งมีจำนวน ๖ รู
ปากลำโพงทำด้วยทองเหลือง ผู้เป่าที่ชำนาญอาจใช้แนทำเสียงให้ได้อารมณ์ต่างๆ
หลายชนิดแนมี ๒ ขนาด คือ แนหลวง หรือแนใหญ่
มารูปร่างลักษณะขนาดและวิธีเล่นเหมือนกับปี่มอญ กับ แนหน้อย หรือแนเล็ก
มีขนาดเล็กและระดับเสียงสูงกว่าแนหลวง มีเสียงแหลม และวิธีการเล่นคล้ายปี่ชวา
แนไม่ใช้บรรเลงเดี่ยว แต่จะเป็นส่วนใหญ่ในวงพาทย์หรือปี่พาทย์ล้านนา
ซึ่งจะบรรเลงร่วมกับระนาดและฆ้องวง มีกลองเต่งถิ้งหรือตะโพนมอญ
และฉาบเป็นเครื่องจังหวะสำคัญ แนจะเป็นเครื่องดนตรีที่นำวงเสมอ
นอกจากนั้นยังใช้บรรเลงร่วมกับวงตึ่งนงในการประกอบการฟ้อนพื้นเมือง
ใช้บรรเลงร่วมกับกลองเต่งถิ้งและฉาบ ประกอบการชกมวยโดยบรรเลงเพลงมวยของท้องถิ่น
ในปัจจุบันก็ยังนิยมอยู่
แน เป็นปี่พื้นเมืองพายัพประเภทใช้ลิ้นในการกำเนิดเสียง
มีลักษณะคล้ายปี่ชวา หรือปี่มอญ ประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญที่สามารถแยกออกจากกันได้
คือ เลาปี่ ลิ้นปี่ และส่วนปลายเปิดที่เรียกว่า ลำโพง
เลาปี่
ทำด้วยไม้เนื้อแข็ง กลึงกลมเรียว บริเวณเลาปี่ด้านที่ใกล้ปากเป่า
กลึงเป็นลูกแก้วควั่นเพื่อความสวยงาม
ที่ตัวเลาปี่เจาะรูสำหรับนิ้วเปิด-ปิดให้เกิดสียงต่างๆ ในขณะเป่า 7 รู ลำโพงปี่
ทำด้วยทองเหลืองหรือโลหะผสมหลอม ตีให้ปลายบานออกคล้ายดอกลำโพงเพื่อช่วยการกระจายเสียงให้ดังกังวานขึ้น
ลิ้นปี่
ของปี่แนนั้นเป็นลิ้นคู่ ทำจากใบตาลซ้อนกัน 4 ชั้น ตัดผูกติดกับท่อโลหะกลึงกลม
เรียกว่า กำพวด ทำด้วยโลหะชนิดต่างๆ เช่น ทองเหลือง, เงิน, นาค เป็นต้น
ซึ่งจะมีความยาวแตกต่างกันไปตามชนิดและขนาดของปี่แน ถ้าขนาดใหญ่ คือ แนหลวง
ขนาดเล็ก คือ แนน้อย
นอกจากนี้
ปี่แนส่วนใหญ่จะมีแผ่นกระบังลม ซึ่งไม้ แผ่นโลหะ หรือพลาสติก
สอดติดไว้กับกำพวดปี่สำหรับกันริมฝีปากผู้เป่าเช่นเดียวกับที่ปี่มอญหรือปี่ชวาใช้
แนหลวง
เป็นปี่ขนาดใหญ่คล้ายปี่มอญ มีเสียงดังกังวาน เลาปี่ยาวประมาณ 48-50 ซ.ม.
ช่องปากลำโพงกว้างประมาณ 12-13 ซ.ม.
รวมทั้งใบบานที่กางออกไปเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 21-22 ซ.ม. กำพวดยาวประมาณ 10
ซ.ม. ลีลาการบรรเลงไม่ค่อยมีลูกเล่นมากนัก เป่าดำเนินทำนองยาวๆ
ลีลาเรียบง่ายเป็นส่วนมาก
แนน้อย เป็นปี่ขนาดเล็ก เสียงค่อนข้างเล็กแหลม
เลาปี่ยาวประมาณ 33-35 ซ.ม. ช่องปากลำโพงกว้างประมาณ 6-7 ซ.ม.
ส่วนลำโพงที่บานออกไปเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 12-13 ซ.ม. กำพวดยาวประมาณ 8 ซ.ม.
ลีลาดำเนินทำนองค่อนข้างผาดโผน คอยบรรเลงสอดสลับกับแนหลวง
ตามปกติเลาปี่กับลำโพงที่สอดสวมเข้าไปด้วยกันนั้นหลวมหลุดออกจากกันได้ง่าย
จึงต้องมีเชือกเส้นหนึ่งผูกลำโพงท่อนบนโยงมาผูกไว้กับตัวเลาปี่ตอนบนเหนือลูกแก้ว
มักเป่าพร้อมกันทั้ง 2 เลา นิยมใช้ร่วมขบวนแห่ วงกลองตึ่งโนง, วงกลองหลวง เป็นต้น
ลิงก์เพจ facebook
ลิงก์เพจ facebook
http://tkapp.tkpark.or.th/stocks/content/developer1/thaimusic/30_peenae/web/detail.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น